คุณสมบัติของเหล็ก

คุณสมบัติของเหล็ก

     เหล็ก SS400,SS41,เหล็กแผ่นดำ SS400,แผ่นเหล็กดำ,จำหน่ายเหล็ก ss400,ขายเหล็ก ss400,เหล็กเกรด SS400,เหล็กแผ่นขาว ss400,แผ่นเหล็กรีดเย็ด,แผ่นเหล็กรีดร้อน
นำเข้าและจำหน่ายหล็ก SS400,SS41,เหล็กแผ่นดำ SS400,แผ่นเหล็กดำ,จำหน่ายเหล็ก SS400,ขายเหล็ก SS400,เหล็กเกรด SS400,เหล็กแผ่นขาว SS400,แผ่นเหล็กรีดเย็ด,แผ่นเหล็กรีดร้อน,จำหน่ายแผ่นเหล็ก ss400,
เหล็กเกรด SS400,SKD11,SKS3,SKD61,P20,S45C,S50C,SCM4,SCM440,SCM415,SCM439,SNCM439,SK5,SUP9,
SUJ2,เหล็กสแตนเลส 2316,เหล็ก P20
คุณสมบัติของเหล็กเกรดต่างๆ

เหล็ก SS400 คุณสมบัติ เหล็กแผ่นรีดร้อน สำหรับงานโครงสร้างทั่วๆ ไป

เหล็ก SKD11 คุณสมบัติ ทำลูกรีดเกลียว ลูกรีดแป๊ป ใบมีดตัดเหล็กแม่พิมพ์ปั้มขึ้นรูป แม่พิมพ์กรรไกร แม่พิมพ์กระดาษ ทนแรงตึงสูง

เหล็ก SKS3 คุณสมบัติ เหล็กทำแม่พิมพ์งานเย็น พิมพ์ตัด โลหะแผ่นบางและกระดาษ มีความสามารถในการชุบแข็งสูง ทนแรงเสียดสีได้ดี

เหล็ก SKD61 คุณสมบัติ เหล็กสำหรับทำแม่พิมพ์งานร้อน มีความแข็งแรงที่อุณหภูมิปกติและอุณหภูมิสูงๆทนการสึกหรอดีมาก ทนแรงกระแทกสูง รักษาความแข็งแรงที่สูงได้ดี ใช้ทำแม่พิมพ์อัดขึ้นรูปโลหะได้ดี

เหล็ก P20 คุณสมบัติเหล็กแม่พิมพ์พลาสติกคุณภาพสูง ขัดผิวขึ้นเงาได้ดีมาก ทำงานง่าย ทนแรงดัน

เหล็ก S45C คุณสมบัติ เหล็กคาร์บอนปานกลางเหมาะสำหรับงานพื้นฐานทั่วไป โครงสร้างแม่พิมพ์ และแม่พิมพ์ฉีดพลาสติก ชุบแข็งได้ง่าย ทนการเสียดสีได้ดี มีความแข็งแรงสูง เหมาะสำหรับทำชิ้นส่วนพื้นฐาน หรือโครงสร้างของแม่พิมพ์และงานทั่วๆ ไป

เหล็ก S50C คุณสมบัติ เหล็กคาร์บอนปานกลางเหมาะสำหรับงานพื้นฐานทั่วไป โครงสร้างแม่พิมพ์ และแม่พิมพ์ฉีดพลาสติก ชุบแข็งได้ง่าย ทนการเสียดสีได้ดี มีความแข็งแรงสูง เหมาะสำหรับทำชิ้นส่วนพื้นฐาน หรือโครงสร้างของแม่พิมพ์และงานทั่วๆ ไป

เหล็ก SCM440 คุณสมบัติ เหล็กเครื่องมือมีคาร์บอนปานกลาง มีความเหนียว ทนแรงตึงสูง เหมาะสำหรับทำเครื่องมือ น๊อต สกรู เพลา ก้านสูบและชิ้นส่วนรถยนต์

เหล็ก SCM415 คุณสมบัติ ทนแรงดึงสูง มีความเหนียว เหล็กเครื่องมือ เหมาะที่จะเฟืองรอบจัด และงานที่ต้องการผิวที่แข็งเฉพาะผิว

เหล็ก SCM439,SNCM439 คุณสมบัติ เหล็กเครื่องมือทนแรงดึงสูง เหมาะสำหรับทำเพลาข้อเหวี่ยง เฟืองแกนพวงมาลัย เพลากลางรถยนต์ และชิ้นส่วนเครื่องจักรที่มีความเครียดสูง

เหล็ก SK5 คุณสมบัติ เหล็กคาร์บอนสูง ชุบแข็งได้ง่าย ทนทานการเสียดสีได้ดี มีความแข็งแรงสูง มีคุณสมบัติเป็นสปริงสูง

เหล็ก SUP9 คุณสมบัติ ใช้สำหรับสปริงขึ้นรูปงานร้อน (Hot Format Spring) เช่นเหล็กแผ่นสปริง (Laminated Springs) เหล็กคอยล์ปริง และเหล็กแหนบสปริงที่ใช้ในรถยนต์

เหล็กรูปพรรณ

คือเหล็กที่มีรูปร่างแบบต่างๆ มีหลายชนิด เพื่อตอบสนองต่อการใช้งาน โดยมีจุดประสงค์หลัก คือการเพิ่มคุณสมบัติของหน้าตัด เพื่อรับแรงหรือต้านทานการเสียรูปขณะใช้งานได้ดีขึ้น ใช้เป็นเหล็กในโครงสร้างหลักหรือโครงสร้างอื่นๆ เช่นโครงหลังคาเหล็ก คานเหล็ก เสาเหล็ก สามารถแบ่งตามการผลิต

ได้ 2 แบบ คือ

1. เหล็กรูปพรรณรีดร้อน

2. เหล็กรูปพรรณรีดเย็น

      กระบวนการผลิตเหล็กรีดร้อน

กระบวนการผลิตเหล็กรีดร้อนแสดงในรูปที่ 5.5 การผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนในประเทศไทยจะเริ่มจากการหลอมเศษเหล็กด้วยเตาไฟฟ้า (Electric Arc Furnace) เพื่อผลิตน้ำเหล็กให้ได้ตามส่วนผสมทางเคมีที่ต้องการ จากนั้นน้ำเหล็กจะถูกทำให้แข็งตัวโดยผ่านขบวนการหล่อแบบต่อเนื่อง (Continuous

casting) เพื่อหล่อเป็นเหล็กแผ่นหนา (Slab) ซึ่งจะถูกตัดด้วยเครื่องตัด (Shearing machine) เพื่อให้ได้ขนาดที่เหมาะสมก่อนที่จะผ่านเตาอบ (Slab reheating furnace) เพื่อให้ความร้อน (สำหรับบางโรงงานที่ 10 ไม่มีเตาไฟฟ้าสำหรับหลอมเศษเหล็ก จะนำเข้าเหล็กแผ่นหนาจากต่างประเทศเข้ามาเป็นวัตถุดิบ) โดย

อุณหภูมิที่ใช้อบ (Slab reheating temperature, SRT) อยู่ในช่วงประมาณ 1100-1250 ?C จากนั้นเหล็กแผ่นหนาที่ผ่านเตาออกมาจะผ่านการขจัดสนิม (Descaling) ด้วยน้ำที่พ่นมาที่ผิวเหล็กด้วยแรงดันสูง และผ่านสู่การรีดลดขนาดที่อุณหภูมิสูง (Hot rolling) โดยอุณหภูมิขณะที่เหล็กผ่านแท่นการรีดสุดท้าย (Finishing temperature, FT) โดยทั่วไปจะสูงกว่า 870 ?Cหลังจากผ่านแท่นรีดสุดท้าย เหล็กแผ่นจะถูกทำให้เย็นลง

โดยการผ่านน้ำหล่อเย็น (Cooling table) และเข้าสู่เครื่องม้วน (Coiler) ซึ่งโดยทั่วไปอุณหภูมิที่ใช้ม้วน (Coiling temperature, CT) จะอยู่ในช่วงประมาณ 550-710 C เหล็กแผ่นรีดร้อนที่ได้จะมีผิวสีเทาดำ หรือ เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Black coil หรืออาจนำไปผ่านการกัดกรดและเคลือบน้ำมัน จะเรียกว่า Pickled and

Oiled (P&O) หล็กแผ่นรีดร้อนสามารถนำไปใช้งานในลักษณะที่ไม่ต้องการคุณภาพผิวสูงนัก เช่น เช่น เหล็กสำหรับงานโครงสร้าง เช่น เหล็กรูปตัว C (C-channel) ขนาดเล็ก-ใหญ่ (Pipe and Tube) เช่น ท่อน้ำมัน ท่อประปาขนาดใหญ่ ถังแก๊สหุงต้มอุตสาหกรรมต่อเรือ ชิ้นส่วนยานยนต์ หรือใช้เป็นวัตถุดิบ

   การผลิตเหล็กแผ่นรีดเย็น

เหล็กและเหล็กกล้า
วัสดุเหล็กและเหล็กกล้าสามารถทำการผลิตด้วยกรรมวิธีต่างๆ ได้ด้วยการเจือวัสดุอื่นๆ ลงไปและการผ่านกรรมวิธีทางความร้อน (Heat Treatment) เพื่อให้ได้คุณสมบัติที่จะนำไปใช้งานตามสภาพหรือสภาวะของงาน ด้วยเหตุนี้เหล็กกล้าจึงเป็นวัสดุช่างที่ใช้กันบ่อยที่สุดเหล็กดิบความหนาแน่น 6.7 kg /dm3 ถึง 7.3 kg /dm3มีจุดหลอมเหลวประมาณ 1300 ?C มีปริมาณคาร์บอนประมาณ 3-5% เป็นเหล็กที่ได้มาจากเตาสูง (Blast Fernace) โดยตรง (ไม่มีการผ่านกรรมวิธีอื่น
อีก) ปกติจะมีคาร์บอนอย่างน้อย 2.1% ขึ้นไป เหล็กประเภทนี้ไม่สามารถขึ้นรูปในขณะร้อนและเย็นด้วยเครื่องจักรได้

เหล็กดิบแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
1. เหล็กดิบขาว มีแมงกานีสอยู่ทำให้มีการก่อตัวของคาร์บอนขึ้น ปกติจะมีคาร์บอนประมา 3–4% คาร์บอนนี้จะทำปฏิกิริยาทางเคมีรวมตัวกับเนื้อเหล็ก (ผลึกเม็ดเกร็นของเหล็ก) กลายเป็น Fe3 C (เหล็กคาร์บอน) ดังนั้นจึงไม่มีแกรไฟต์รวมอยู่ด้วย ทำให้มีลักษณะแข็งเปราะ มีเม็ดละเอียดสีขาวเหมือนเงิน
เหล็กนี้จะนำไปทำเป็นเหล็กกล้า เหล็กหล่อเหนียวขาว และเหล็กกล้าหล่อ


2.เหล็กดิบเทา มีซิลิคอนปนอยู่ ซิลิคอนจะผลักคาร์บอนออกจากผลึกเม็ดเกร็นของเหล็กให้อยู่ในรูปแกรไฟต์ (Graphite)ซึ่งจะแทรกตัวอยู่ระหว่างผลึกเม็ดเกร็นของเหล็ก ( เพราะคาร์บอนไม่ทำปฏิกิริยารวมกับเนื้อเหล็ก) เหล็กชนิดนี้จะนำไปทำเป็นเหล็กหล่อ (Cast Iron) และเหล็กหล่อเหนียวดำเหล็กดิบเทาหรือเหล็กดิบขาวที่ถลุงจากเตาสูงจะไม่สามารถนำมาผลิตเป็นวัสดุกึ่งสำเร็จรูปหรือชิ้นส่วนสำเร็จรูปได้ เนื่องจากมีปริมาณคาร์บอนสูง มีสารมลทินอื่นๆปนอยู่ และยังขาดตัวประสมเพิ่มทำให้ขาดคุณสมบัติที่ต้องการ จึงต้องทำการหลอมเหล็กดิบนี้ใหม่เพื่อให้ความร้อนในเตาเผาไหม้คาร์บอนฟอสฟอรัส กำมะถันให้น้อยลง

 

 

Visitors: 132,084